ตัวกล้องสามารถใช้ CMOS Cencor ที่มีความละเอียดถึง 6.3 ล้านพิกเซล หรือเทียบเท่ากับขนาด 3,072 x 2,048 ทุกภาพที่ได้ทำการบันทึก สามารถขยายใหญ่ได้เป็นพิเศษ ในขณะที่ความละเอียดของภาพยังคงอยู่ นอกจากนั้น ตัวกล้องยังมีระบบวัดแสง 35 โซน ดังนั้น เราจึงสามารถมั่นใจได้ว่า เราจะได้ภาพที่สวยสมจริงเช่นมืออาชีพทั่วไป

Processor DiG!C ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ จะช่วยในการประมวลภาพให้รวดเร็ว และภาพมีความคมชัดมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการพิมพ์ภาพ ภาพที่ได้จะเป็นทั้งระบบ RAW และ JPEG

กล้อง Canon EOS300D เลือกใช้เทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบกำหนดได้ 7 จุด ซึ่งจะใช้ในกล้องระดับมืออาชีพทุกตัวของ Canon มีโหมดการบันทึกภาพถึง 12 แบบ ซึ่งครอบคลุมการบันทึกในรูปแบบต่างๆ อย่างครบถ้วน (โหมด ออโต้, ถ่ายภาพบุคคล, ทิวทัศน์, มาโคร, กีฬา, แมนนวล เป็นต้น) การโฟกัสภาพเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้การถ่ายภาพในช่วงเวลาสำคัญๆ เป็นไปได้ตลอดเวลา

กล้อง Canon: EOS300D สามารถปรับใช้งานความเร็วชัตเตอร์ได้ตั้งแต่ ความเร็วชัตเตอร์ B ไปจนถึงความเร็ว 1/4000 วินาที และสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ความเร็วสูงถึง 2.5 ภาพต่อวินาที ด้วยความเร็วชัตเตอร์ระดับนี้ ทำให้สามารถมั่นใจได้ในการถ่ายภาพทุกรูปแบบ ไม่ว่าความเร็วของวัตถุที่กำหนดจะช้าหรือเร็วแค่ไหนก็ตาม

ผู้ใช้สามารถปรับความไวแสง (ISO) ผ่านตัวกล้องได้ตั้งแต่ Auto (ISO 100,200 หรือ 400), ISO 100, ISO 200, ISO 400, ISO 800 แม้กระทั่ง ISO 1600 ผ่านความไวแสงที่หลากหลายและครอบคลุมทุกสภาพแสง รวมทั้งสามารถตั้งระบบ White Balance ได้ถึง 8 แบบ

กล้อง Canon EOS300D สามารถใช้ร่วมกับเลนส์ EOS ของ Canon ได้มากกว่า 60 ชนิด รวมทั้งสามารถใช้กับอุปกรณ์ร่วมอื่นๆ เช่น แฟลชและสายลั่นชัตเตอร์ ได้อีกด้วย

กล้อง EOS 300D สามารถสั่งพิมพ์โดยตรงผ่านเครื่องโฟโต้ไดเร็คพริ้นหรือการ์ดโฟโต้พริ้นเตอร์ รุ่น CP-200 และ CP-300 โดยไม่ต้องผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ภาพแบบ Exif Print รวมทั้งมีระบบ PictBridge ในตัวกล้อง ช่วยให้สามารถพิมพ์ผ่านพริ้นเตอร์ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อที่มีระบบ PictBridge